ติดภารกิจขอพักผ่อนเป็นการส่วนตัวโดยยก เลิกกำหนดการต่างๆรวมถึงอดไปทานผัดไทยของ โปรดและไม่ได้ไปงานเลี้ยงต้อนรับพันโท หญิงลัดดาแทมมี่ Dark World สาวไทยที่ เป็น วุฒิสมาชิการัติเนื่องจากไม่ต้องการเดิน ทางไปในจุดพลุกพล่านเป็นที่สนใจของผู้คน ได้แต่นั่งคุยกับเพื่อนๆที่ตามมาจากสหรัฐ และโทรศัพท์คุยกับเพื่อนในประเทศไทยในโรง แรมที่พักส่วนกำหนดเดินทางกลับสารัชยัง เป็นวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมตามเดิมไม่ เปลี่ยนแปลง การเดินทางมาประเทศไทยของท่านอ้นวัชรสร วิวัชรวงศ์พระโอรสองค์ที่ 2 ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อปฏิบัติภารกิจ
ส่วนตัวโดยเดินทางมาถึงไทยเมื่อคืนวันที่ 7 สิงหาคมและมีกำหนดอยู่ในประเทศไทย 1 สัปดาห์ระหว่างพำนักในไทยท่านอ้นได้เดิน ทางเข้ากราบสักการะศาลหลักเมืองสักการะ ศาลพระพรหมเอราวัณรวมถึงไปเยี่ยมเด็กๆที่ มูลนิธิในสลัมและนั่งรถตุ๊กๆชมกรุงทำให้ กลายเป็นจุดสนใจของประชาชนคนไทยจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดวันที่ 10 สิงหาคมทันอ้นไปทำ บุญถวายเพลพระและสามเณรที่วัดยานนาวาเขต สาทรกรุงเทพฯแล้วเข้ากราบสักการะพระ บรมราชรีลังคารพระอัยการพระบาทสมเด็จพระ บรมนาธิเบศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรและ สักการะอัคคีสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวง
ชิรญาณสังวรสักการะพระไพรีพินาศที่วัด บวรนิเวศวิหารพร้อมเข้าเยี่ยมตำหนักที่ เคยเป็นสถานที่ทำนักคณะมาบวชเณรเมื่ออายุ ได้ 11 ปีที่วัดบวรโดยมีกลุ่มคนทั่วไปพา กันมาติดตามท่านอ้นจำนวนมาก สำหรับความเคลื่อนไหวของท่านอ้นเมื่อช่วง เช้าวันที่ 11 สิงหาคมทันอ้นได้เก็บตัว พักอยู่ในที่พักของโรงแรมพร้อมยกเลิก กำหนดการที่จะไปจุดที่มีคนจำนวนมากเนื่อง จากไม่ต้องการให้เป็นที่สนใจของผู้คนมาก จนเกินไปโดยในช่วงเช้าได้อยู่ที่โรงแรม พร้อมกับเพื่อนๆที่ติดตามมาจากประเทศ สหรัฐและได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เพื่อนๆในประเทศไทย ขณะเดียวกันในช่วงเที่ยงมีการจัดงาน
เลี้ยงต้อนรับพันโทหญิงลัดดาแทมมี่ Dark Word วุฒิสมาชิกสหรัฐชาวไทยที่เดินทางมา จากสหรัฐโดยได้จัดเลี้ยงที่ห้องอาหาร Royalซอยร่วมฤดีถนนสุขุมวิทกรุงเทพฯใกล้กับโรง แรมที่พักของท่านอ้นมีบุคคลวงการเมืองและ นักธุรกิจของไทยไปร่วมงานหลายคนและมีคน ที่รู้จักกับท่านอ้นได้เชื้อเชิญให้ท่าน อ้นไปร่วมงานเลี้ยงด้วยแต่คนใกล้ชิดแจ้ง ว่าท่านอ้นติดภารกิจส่วนตัวจึงไม่สามารถ เดินทางไปได้รวมทั้งตัวทั้งอ้นเองก็ไม่ ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ต่อมาเวลา 14:00 นภายหลังคณะของพันโทหญิง ลัดดาแทมมี่ Dark Word และผู้มาร่วมงาน กลับไปแล้วท่านอ้นและเพื่อนสนิทได้เดิน
ทางไปรับประทานอาหารที่ร้านรอยัลโอชานั่ง คุยกับเพื่อนคนไทยและอเมริกาเป็นเวลา ประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับโรงแรมที่ พักเนื่องจากมีเพื่อนคนไทยมาขอพบและมี บุคคลต่างๆพยายามเชิญท่านอ้นไปร่วมงาน ต่างๆแต่ท่านอ้นได้ปฏิเสธที่จะไปร่วมงาน นอกเหนือจากกำหนดการที่วางไว้แม้กระทั่ง จะไปรับทานอาหารจานโปรดคือผัดไทยก็ยัง หลีกเลี่ยงที่จะไปในสถานที่ที่มีคนพลุก พล่านสำหรับกำหนดการในวันที่ 12 สิงหาคม ที่เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษาของ พระอัยยิกาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระ บรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงท่าน อ้นมีกำหนดการจะไปถวายพระพรแต่ยังไม่ได้
มีกำหนดว่าจะไปถวายพระพรณสถานที่ใดโดยจะ เลือกไปแบบเรียบง่ายก่อนจะเดินทางกลับ สหรัฐอเมริกาในวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม ตามกำหนด ท่านอ้นโพสต์ภาพเนื่องในวันแม่อ่านข้อ ความแล้วมากพร้อมตอบข้อสงสัยยืนยันดูแล ตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปรนนิบัติ ล่าสุดวันที่ 12 สิงหาคม 2566 เนื่องในวันแม่แห่งชาติท่านอ้นได้ โพสต์ภาพพร้อมข้อความซึ่งแปลได้ว่าสุข สันต์วันเกิดแต่คุณยายของฉันเมื่อปี 1992 บวชเป็นพระเณรเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้ในรูปเหล่านี้เธอและพ่อของฉันกำลังตัด ผมและโกนหัวของฉันโดยการโพสต์ภาพในครั้ง นี้ได้มีประชาชนแทนมากดหัวใจและแสดงความ
คิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งล่าสุดนั้นท่านปล้นต่อสมศักดิ์ยันต์ ดูแลตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ปรนนิบัติท่านอ้นวัดอดิศรตอบสมศักดิ์หลังถูกเปิดภาพอ้าง มหาดเล็กคนสนิทติดตามไปทุกที่ยันต์ใช้ ชีวิตเมืองนอกเป็นสามัญชนดูแลตัวเองได้ ไม่มีใครมารับใช้เคยเจอน้องคนนี้แต่เขา ไม่เคยมีฐานะเป็นบริวารผมไม่จำเป็นให้ใคร มาปรนนิบัติโดย Facebook ของสมศักดิ์ เจียมธีระสกุลอ้างเผยภาพมหาดเล็กคนสนิท บอกปัจจุบันติดตามคุณอ้นไปทุกที่ขณะที่ ท่านอ้นโต้กราบเรียนอาจารย์ผมใช้ชีวิต เมืองนอกเป็นสามัญชนดูแลตัวเองได้ไม่มี ใครมารับใช้ผมเคยเจอน้องคนนี้แต่เขาไม่
เคยมีฐานะเป็นบริวารผมไม่จำเป็นต้องให้ ใครมาปรนนิบัติซึ่งกรณีก่อนหน้านี้ทาง ด้านของสมศักดิ์เจียมทีรักสกุลก็ได้มีการ โพสต์ถึงท่านอ้นระบุว่าท่านอ้นวัชรินทร์ วัชรวงศ์มีนัดทานข้าวกับพรรคเพื่อไทยย่าน สุขุมวิทซึ่งต่อมาท่านอ้นออกมาปฏิเสธไม่ เป็นความจริงยังไม่ยุ่งเรื่องเกี่ยวกับ การเมืองทำให้สมศักดิ์เจียมทีรักสกุลออก มาโพสต์ข้อความอีกครั้งโดยเป็นการขออภัย ท่านอ้นโดยก่อนหน้านั้นท่านอ้นเคยได้ให้ สัมภาษณ์ไว้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่ใน ต่างแดนไว้อย่างนี้ ผมมาอเมริกา 22 ปีที่แล้วมีแต่คุณแม่มี แต่น้องๆมีแต่พี่ชายไม่รู้จักใครไม่มีใคร
อยากจะช่วยเหลือไม่มีทรัพยากรนะครับมาใน ฐานะผู้ลี้ภัยหรือจี้ไม่มีที่จะอยู่มาใน ประเทศใหม่ที่ไม่รู้ภาษานะครับเป็นเวลา ที่ลำบากมากไม่มีทางออกยกเว้นจะต้องช่วย เหลือตัวเองต้องหาความรู้เข้าตัวต้องหา อะไรที่มาเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองให้ได้มัน ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลยนะครับก็ต้องทำงาน ช่วยเหลือตัวเองต้องยืมเงินเรียนนะครับ ไม่มีค่าซื้อหนังสือก็ต้องทำงานผมยังจำ ได้งานแรกของผมเลยในอเมริกาเนี่ยก็ไม่พ้น การทำอาหารขายงานแรกของผมคือขายฮอทดอกที่ เดชอันแรกที่เดชนะครับเป็นประสบการณ์ที่ ไม่เคยมีมาก่อนงานที่ 2 คือขายเครื่องดูด ฝุ่นเพราะฉะนั้นถ้าเผื่อไม่เป็นทนายเนี่ย
ผมก็เป็นแม่บ้านได้ ทั้งทำความสะอาดทั้งทำอาหารนะครับคือเวลา ผ่านมากับตัวเองแล้วก็รู้สึกถึง ประสบการณ์ชีวิตเนี่ยนับว่าชีวิตนี้เป็น ครูเป็นอาจารย์จริงๆตอนสมัยอยู่เมืองไอโตขึ้นมาในวังผมไม่เคยนึกเลยว่า มหาดเล็กคนที่มาวันนี้เขาตื่นกี่โมงเขา เหนื่อยไหมเขาง่วงไหมกว่าที่เขาจะยกอาหาร มาที่โต๊ะทานข้าวเนี่ยเขาเดินกี่ก้าวเขา ทำช้อนหล่นในหรือว่าทหารตำรวจที่เดินเป็น อารักขาเนี่ยเขาต้องมาถึงที่ทำงานกี่โมง ที่บ้านเขาต้องดูแลลูกหรือเปล่าไม่เคยนึก เลย แต่ตอนมาอยู่เมืองนอกใช้ชีวิตเหมือน สามัญชนทำให้นึกขึ้นได้ว่าต้องเอาใจเขา
ใส่ใจเราต้องรู้ว่าการเซอร์วิสคนอื่นนี้ เป็นยังไงการเป็นทนายก็นับว่าเป็น เซอร์วิส Industry นะครับเราต้องบริการ ลูกค้าการที่มีความรู้หรือประสบการณ์ เมื่อเราต้องช่วยเหลือคนอื่นหรือทำเพื่อ คนอื่นเนี่ยเป็นสิ่งที่ต้องประสบกับตนเอง ไม่มีใครสอนได้ซึ่งผมก็รู้สึกตื้นตันใจ จริงๆที่ชีวิตนี้มีโอกาสได้เรียนรู้ว่า คิ้วแปลว่าอะไรเหนื่อยแปลว่าคืออะไรการทำ เพื่อคนอื่นแปล