จากกรณีครูโรงเรียนมัธยมปัทมากร บ้านบ่อปัทม์ ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ออกเยี่ยมบ้านของเด็กหญิง อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ซึ่งอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะแม่และยายเสียชีวิต ส่วนพ่อติดคุกที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของยาย จำนองกับธนาคาร ไม่รู้จะถูกยึดเมื่อไหร่ เด็กญิงเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เวลาว่างจะไปเสียบปิ้งไก่หารายได้เสริมวันละ 30-50 บาท
หลังจากนำเสนอข่าวไปแล้ว ปรากฏว่า ธารน้ำใจหลั่งไหล มียอดเงินช่วยสนับสนุนการศึกษาโอนเข้าบัญชีของเด็กหญิง ยอดล่าสุดก่อนแจ้งปิดบัญชีเป็นเงินจำนวน 1,140,436.50 บาท ขณะเดียวกันคุณครูได้พาเด็กหญิงไปปิดบัญชี ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเพียงพอสำหรับทุนการศึกษาและซื้อที่ดินและสร้างบ้านใหม่ให้น้อง
ขณะเดียวกันวันนี้ที่โรงเรียนมัธยมศึกษาปัทมากร นายกรวีร์ สาราคำ สส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 พร้อมด้วยกำนันต.สะแบง กำนัน ต.สร้อยพร้าว ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต.สะแบง และพระมหาสุขสันต์ อุตตโม เจ้าอาวาส และ ผจก.โรงเรียนมัธยมศึกษาปัทมากร คณะครู ได้ร่วมประชุมวางแผนในการบริหารจัดงานเงินของเด็กหญิง เบื้องต้นวางแผนเก็บเงินไว้ให้น้องในบัญชี โดยบัญชีจะเก็บไว้กับคุณครู จะมีผู้ดูแลบัญชี 5 คน จะมีคนที่เบิกบัญชีได้ 3 ใน 5 หากน้องประสงค์ใช้เงิน และให้ใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น
ส่วนที่จะไปไถ่บ้านยายที่จำนองไว้กับธนาคาร เบื้องต้นทราบว่าป้าของน้องแจ้งว่า จะหาเงินมาไถ่เอง ทางผู้ร่วมประชุมจึงวางแผนจะซื้อที่ดินใหม่และสร้างบ้านใหม่ให้น้องเลย โดยในที่ประชุมได้มีข้อตกลงห้ามญาติมายุ่งกับเงินส่วนของน้องโดยเด็ดขาด เพราะเงินส่วนนี้เป็นธารน้ำใจที่คนไทยช่วยเหลือน้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเด็กหญิงได้รับความช่วยเหลือ ปรากฏว่าญาติๆ ทั้งลุงป้าน้าอาโผล่มาจากไหนไม่รู้ อ้างว่าเป็นอาของน้อง เป็นน้องของพ่อ โทรมาหาพระอาจารย์บอกว่า ไม่ได้เจอน้องนาน คิดถึงหลาน สมัยน้องเด็กๆ เคยดูแลอย่างดี ซึ่งอาบอกว่าหากหลานอยากมาอยู่ด้วยก็พร้อมดูแล และยังมีป้าของน้องโทรมาบอกว่าเคยดูแลน้อง หากน้องอยากมาอยู่ด้วยก็พร้อมดูแลเช่นกัน