อดีตผู้บริหารเงินเดือนหลักแสน แชร์ชีวิตสู่จุดตกต่ำ กลายเป็นคนล้างจาน – ถูกเด็กรุ่นลูกด่า ตัดพ้อชีวิตไม่ง่ายหลังเกษียณ

วันที่ 14 มิ.ย. 2568 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ Mirror Media ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของ นายซาโต้ (นามสมมติ) วัย 61 ปี อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในญี่ปุ่น ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต จากผู้บริหารระดับสูงที่รับเงินเดือน 1 ล้านเยน สู่การเป็นคนงานล้างจานในร้านอาหารหลังเกษียณ โดยมีค่าแรงเพียงชั่วโมงละ 1,580 เยน แถมยังต้องถูกเด็กที่อายุน้อยกว่าเกือบ 40 ปี ดุด่า ต่อว่า อีกด้วย

โดย นายซาโต้ เปิดเผยว่า หลังจบมหาวิทยาลัย เขาก็เข้าทำงานในบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น ใช้เวลาหลายสิบปีในการตั้งใจขยันทำงาน จนกระทั่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่าย ซึ่งมีเงินเดือน 1 ล้านเยน หรือประมาณ 2.2 แสนบาท พร้อมที่จะได้รับเงินบำนาญก้อนใหญ่มากถึง 32 ล้านเยน หรือราว  7.2 ล้านบาท หลังเกษียณ

ด้วยประสบการณ์การทำงานอันยาวนาน ทำให้เขามั่นใจในตัวเอง และหวังว่าจะหาความท้าทายใหม่ ๆ หลังเกษียณ เขาจึงตัดสินใจหางานใหม่ผ่านเอเจนซี่ ด้วยความหวังว่า จะนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ไปสร้างคุณค่าให้กับบริษัทอื่น แต่ความเป็นจริงอันโหดร้ายของตลาดแรงงาน ทำให้เขาต้องผิดหวังและท้อใจ แม้เขาจะมีประวัติการทำงานที่ยอดเยี่ยม มีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายของบริษัทใหญ่ก็ตาม

จนเอเจนซี่หางานก็ยังแนะนำเขา ให้มองหางานที่ไม่เกี่ยวกับความชำนาญเดิม อย่างไรก็ตาม จากความล้มเหลวต่อเนื่อง ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่ลง เขาจึงนั่งอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ทำอะไร ทั้งยังเอาแต่บ่นไปเรื่อย เดิมเขาคิดว่าจะใช้ชีวิตต่อไปด้วยเงินบำนาญ ไม่กลับไปทำงานอีก แต่กลับถูกภรรยาพูดว่า คุณอยู่บ้านเฉย ๆ ทั้งวัน ยังมีประโยชน์ไม่เท่าของแต่งบ้านด้วยซ้ำ นั่นจึงทำลายความภาคภูมิใจของเขาเป็นอย่างมาก

กระทั่งวันหนึ่ง ขณะเดินอยู่ข้างถนนอย่างไร้จุดหมาย นายซาโต้ สะดุดตากับป้ายรับสมัครงานหน้าร้านอิซากายะแห่งหนึ่ง เขานึกถึงประสบการณ์ทำงานพาร์ทไทม์สมัยเป็นนักศึกษา จึงเข้าไปสมัครงาน และได้รับการตอบรับ แต่ทว่า การทำงานจริง ๆ ยากกว่าที่เขาคิดมาก หัวหน้าของเขาเป็นเด็กทำงานพาร์ตไทม์วัย 22 ปี ที่ก้าวร้าว นิสัยเข้มงวดและจู้จี้ มักจะไม่ถูกใจในสิ่งที่เขาทำตลอด แถมยังดุด่าเขาอย่างไม่ปรานีว่า จะต้องให้ฉันพูดแบบนี้กี่ครั้ง

ตอนแรกนายซาโต้ถูกด่าบ่อย ๆ ก็รู้สึกสมเพชตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้แล้ว จนสามารถทำงานได้ครบ 8 เดือน ทำให้ค่าแรงต่อชั่วโมงเพิ่มจาก 1,380 เยน หรือราว 310 บาท เป็น 1,580 เยน หรือประมาณ 350 บาท ซึ่งเขายอมรับว่า แม้จะไม่ได้มีความสุขเหมือนสมัยนักศึกษา แต่เขารู้สึกได้รับการเติมเต็มจากการทำงาน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่น่าประหลาดใจ คือ การที่เขาเคยเป็นอดีตผู้จัดการ ยังดึงดูดให้นักเรียนมัธยมที่ทำงานพาร์ตไทม์เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับแผนการเรียนต่อ และแผนในอนาคตกับเขา ทำให้นายซาโต้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการอีกครั้ง ตอนแรก เขาเคยคิดจะยอมแพ้ แต่ตอนนี้ตัดสินใจที่จะทำงานไปเรื่อย ๆ แม้ว่างานนี้จะขาดความรู้สึกภาคภูมิใจในสายตาคนภายนอกก็ตาม แต่ก็ดีกว่าการอยู่บ้านแล้วถูกภรรยาต่อว่า แถมยังได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน พร้อมทั้งยังมีคนที่ต้องการตัวเขาอีกครั้ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *