ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ไล่ติดตามรถยนต์เก๋งต้องสงสัย 2 คัน ลักลอบขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือ ผ่าน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี โดยใช้เส้นทางสาย 333 บ้านไร่-ด่านช้าง ซึ่งรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้าพื้นที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งคนขับรถต้องสงสัยไหวตัวเร่งเครื่องขับหลบหนี เจ้าหนน้าที่ตำรวจ ปส.จึงประสาน พ.ต.อ.ทัตเทพ เลิศลักษณ์มีพันธ์ ผกก.สภ.ด่านช้าง ร่วมกับ นายแผน สุขแสวง นายอำเภอด่านช้าง นำกำลังสกัดตามเส้นทาง
กระทั่งเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียน ขก 5997 พิษณุโลก ที่เป็นรถยนต์ต้องสงสัยขนยาเสพติดขับหนีเข้าไปในคาเฟ่แห่งหนึ่ง ริมถนน 333 ต.วังคัน อ.ด่านช้าง เจ้าหน้าที่จึงขับรถพุ่งชน เพื่อสกัดไม่ให้หลบหนี ทำให้รถต้องสงสัยได้รับความเสียหาย แต่คนขับยังไม่สิ้นฤทธิ์เร่งเครื่องหลบหนีต่อ เจ้าหน้าที่จึงขับไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จากนั้นรถต้องสงสัยขับหลบหนีเข้าไปข้างเมรุวัดทัพผึ้ง ห่างจากจุดแรกที่พบประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งคนในรถ 2 คน ได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า 12 กระสอบ จำนวน 2.4 ล้านเม็ด จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมกับนำของกลางยาบ้าและรถยนต์ไปที่ สภ.ด่านช้าง ขณะที่กำลังอีกชุดหนึ่งได้สกัดจับรถยนต์อีกคัน สีขาว ทะเบียน กต 4216 พะเยา ในพื้นที่เทศบาลตำบลด่านช้าง ห่างจากจุดแรก 20 กิโลเมตร โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาเป็นเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ได้ 2 คน เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี และ ชาว จ.พิจิตร ซึ่งคาดว่ารถคันสีขาวนี้ เป็นรถนำทางให้กับรถคันสีดำที่ขนยาเสพติด
เบื้องต้นคาดว่าแก๊งลักลอบขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือ เพื่อจะมาพักไว้ในพื้นที่ภาคกลาง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านช้าง สกัดจับเอาไว้ได้ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนผู้ต้องหา 2 คน เพื่อขยายผลสืบสวนติดตามจับกุมเพื่อนที่ร่วมกระบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
มีภาพวงจรปิด รถยนต์เก๋งสีดำ ที่ขนยาเสพติด ขับหลบหนี เข้ามาในคาเฟ่แห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 333 บ้านไร่-ด่านช้าง ตำบลวังคัน อำเภอด่านช้าง และรถผู้กำกับ สภ.ด่านช้าง ได้ขับชนรถขนยาเสพติดพังเสียหาย แต่รถขนยาเสพติดได้เร่งเครื่องขับหลบหนีต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจขับไล่ติดตามไป กระทั่งคนขับไปจอดรถทิ้งไว้ข้างเมรุ วัดทัพผึ้ง วิ่งหลบหนีไปได้ 2 คน