สตรีร่างเล็ก ผู้หญิงวัยกลางคน ผู้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับปี…

สตรีร่างเล็ก ผู้หญิงวัยกลางคน ผู้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับปี…
หลานพระราชา
ลูกพระมหากษัตริย์
เด็กในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง
บุคคลที่ต้องพยายามทำให้ดีอย่างเต็มที่เพราะเป็นที่จับจ้องอยู่ในสายตาประชาชน
ข้าราชการที่ทำงานหนักเพื่อคนอื่น
ประธานมูลนิธิที่ทำงานเพื่อสังคม
หากลองมองดีดีในวันนั้น เราจะเห็นสตรีร่างเล็กวัย ๔๔ ที่หมดสติจากอาการทางหัวใจที่เขาใหญ่ หลังจากฉลองวันเกิดของตนเองได้เพียง ๘ วัน โดยการเต้นผิดจังหวะของหัวใจแบบรุนแรงนี้เกิดจากการอักเสบของหัวใจจากเชื้อไมโคพลาสมา (ดังเช่นคุณปู่ของเธอ) และจนถึงตอนนี้เธออยู่ในโรงพยาบาลมานานเกือบ ๓ ปี กระทั่งวันนี้อยู่ในวัย ๔๗ ปีแล้ว
หากลองใช้ใจ เราจะเห็นว่าเธอเป็นหญิงวัยกลางคน เป็นลูกสาวของชายหญิงวัยชรา ที่พ่อดูเหนื่อยล้า และแม่มีปัญหาทางร่างกายจากอาการเลือดออกในสมองไม่สามารถขยับเคลื่อนคล่องได้
หากลองมองอย่างจริง แบบคนกับคน เธอเคยเป็นเด็กเล็กคนหนึ่งที่เติบโตมากับครอบครัวหย่าร้างที่พ่อแม่แยกทาง พ่อมีครอบครัวใหม่ มีลูกใหม่ ไม่ต่างจากใครอื่น
ถ้าลองมองชัด ๆ เราจะเห็นว่าการเติบโตในครอบครัวใหญ่ที่เป็นที่คาดหวังจับตานั้นไม่ง่าย ต้องเรียนให้ดี ต้องไม่มีข่าวเสียหาย ต้องร่างกายแข็งแรง ต้องแกร่ง ต้องทำงานตั้งแต่จำความได้ ต้องช่วยเหลือใคร ๆ ต้องมีวินัย ต้องไม่มีชีวิตอิสระอย่างใจตน ฯลฯ
ผู้หญิงที่เรียนเก่ง ทำงานเก่ง กีฬาก็เก่ง แม้จะมีคนจับตาแต่ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย แถมยังฝึกหัดอย่างทหารในวัยเกือบ ๔๐ ปีได้
ผู้หญิงคนนี้ที่ใคร ๆ อาจมองเธอด้วยสายตาและหัวใจที่หลากหลาย เพราะในฐานะและฐานันดรที่บางครั้งกำหนดบดบังใจ ให้รักมากหรือชังเกินกว่าจะทนเห็นเธอมีชีวิตได้
แต่ถ้ามองดีดี ด้วยใจ สตรีที่กำลังเจ็บป่วยอย่างหนักนี้ หากไม่ใช่ใครคนนั้น เป็นแค่ลูกของคนธรรมดา เป็นพี่สาว น้องสาว น้าสาว เป็นแม่ หรือคุณป้า เราจะมองเธออย่างไร
และหากมองว่า พ่อต้องมาดูลูกที่นอนรักษาตัวด้วยอาการจากภาวะหัวใจ เราจะมองเห็นความเจ็บปวดนั้นได้ไหม
หากมองลึกนึกถึงแม่ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ข่าว หากรู้ว่าลูกป่วยแต่ลุกขึ้นมากอด มาดูแลลูกไม่ได้ หัวใจจะแหลกร้าวแค่ไหน
เราต่างเป็นมนุษย์ธรรมดา ที่มีเกิด แก่ เจ็บ และตายได้ เราจึงต่างกลัว กังวล ยึดยื้อ เหนี่ยวรั้ง ไม่อยากสูญเสีย เศร้า สะเทือนใจ และมุ่งหวังอยากให้คนที่เรารักรอดพ้นปลอดภัย มีชีวิตที่ดี มีความสุขสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าใคร ต่างเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน
ผู้ที่เกิดในช่วงกลางถึงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
บางท่านอาจเกิดและเติบโตพร้อม ๆ กับพระองค์ภา หลานของพระราชาผู้เป็นที่รักหัวใจของแผ่นดิน
ที่อาจได้เห็นและรู้สึกว่า หากมองในสายตามนุษย์คนหนึ่ง ท่านก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีชีวิตที่ไม่ได้สุขสบาย ทั้งในฐานะของหลานพระเจ้าแผ่นดินและลูกในครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แม้หลานพระเจ้าแผ่นดิน ก็พบเจอปัญหาได้ และไม่ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน
ช่วงเวลาดังกล่าวเด็กผู้หญิงที่วัยใกล้เคียงกับเรา ต้องผ่านความเจ็บปวดกับการแยกทางของพ่อแม่ และต้องอยู่อย่างระมัดระวังภาพลักษณ์อย่างที่สุด เพราะตนเองเป็นจุดสนใจของคนทั้งประเทศ และท่านก็ทำได้เป็นอย่างดี
พลเอก (พิเศษ) หญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (พระนามเดิม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา) เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
ทรงเติบโตอย่างสง่างาม โดยทรงได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง ในระดับปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อันเป็นปริญญาตรีใบที่ ๒ อีกทั้งได้เป็นเนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อและได้ Master of Laws (LL.M.), และ Doctor of the Science of Law (J.S.D.) จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะกำลังทรงศึกษาต่อในต่างประเทศและเมื่อสำเร็จการศึกษาได้ทรงงานด้านกฎหมายในฐานะ อัยการผู้ช่วย สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทั่งตำแหน่งสุดท้าย ในปี ๒๕๖๐ ดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ (ข้าราชการอัยการชั้น ๕) สำนักงานอัยการภาค ๒ สำนักงานอัยการสูงสุด
โดยที่ระหว่างปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖ ทรงรับราชการด้านการต่างประเทศในตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารระดับสูง) ประจำคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา, เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐออสเตรีย ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศสโลวาเกีย และประเทศสโลวาเนีย
เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย ขณะทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงเพื่อร่วมแข่งขันในรายการ Thailand Working Dog Championship by Royal Thai Army 2022 ณ สนามฝึก กองพันสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ต่อมาเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์พระอาการประชวรฉบับที่ ๓ โดยคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้สรุปการวินิจฉัยว่าพระอาการประชวรหมดพระสติ เกิดจากการเต้นผิดจังหวะของพระหทัยแบบรุนแรง จากการอักเสบของพระหทัยจากเชื้อไมโครพลาสมา ทําให้ทรงพระประชวรหมดพระสติในเวลาต่อมา ส่วนพระอาการประชวรโดยรวมในขณะนั้นยังไม่ทรงรู้พระองค์
จากนั้นเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์พระอาการประชวรฉบับที่ ๔ โดยคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า จากการถวายพระโอสถและเครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระปัปผาสะและพระวักกะมาโดยตลอด คณะแพทย์ตรวจพบการติดเชื้อเป็นครั้งคราว จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นมา คณะแพทย์ตรวจพบว่าทรงมีพระอาการติดเชื้อรุนแรงและเข้าในกระแสพระโลหิต ทำให้ต้องถวายพระโอสถปฏิชีวนะหลายขนานร่วมกัน รวมทั้งถวายพระโอสถกระตุ้นความดันพระโลหิต เพื่อรักษาความดันพระโลหิตให้คงที่เนื่องจากความดันพระโลหิตต่ำ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์พระอาการประชวรฉบับที่ ๕ โดยคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า พระองค์ยังมีความดันพระโลหิตต่ำอยู่ คณะแพทย์ยังต้องถวายพระโอสถเพื่อกระตุ้นความดันพระโลหิต ร่วมกับพระโอสถปฏิชีวนะและการใช้อุปกรณ์ทดแทนการทำงานของพระวักกะและช่วยหายพระทัยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคืน (๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๘) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารรับราชการ ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารรับราชการ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตำแหน่งเสนาธิการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์ (อัตรา พลเอก) ทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
พลเอก (พิเศษ) หญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ทรงไม่เคยขาดตกบกพร่องไม่ว่าจะในฐานะลูกหรือหลานพระราชา หรือเจ้าฟ้าของแผ่นดิน
ทรงงานหนัก ทรงรักษาพระองค์อย่างทรงเกียรติและสง่างาม ทรงปรีชาชาญในหลายด้าน และทรงอุทิศตนเพื่อผู้ต้องขังและประชาชนด้วยพระกรณียกิจมากมาย
วันนี้แม้ทรงประชวรหากยังเป็นศูนย์รวมใจไทย
คนไทยรักและผูกพันไม่เสื่อมคลาย และต่างรู้สึกใจหายเมื่อทราบข่าวพระอาการประชวร ทั้งพร้อมน้อมใจถวายพระพรให้ทรงหายประชวรและพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ว
สุดท้ายนี้
ขอพระบารมีแห่งบูรพมหากษัตริย์ พระสยามเทวาธิราช พระรัตนตรัย พรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก รวมถึงหัวใจอันดีงามและความปรารถนาดีต่อผู้อื่นของคนไทยทุกคน ปกป้องคุ้มครองพระองค์ภาฯ ให้หายจากการประชวรและทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ในเร็ววันด้วยเทอญ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏻🧡

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *