สุลาลีวันสุวรรณทัตสมรสกับอดีตครูโขนชื่อ ยอแสงภักดีเทวามีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ ทนงศักดิ์ภักดีเทวาต่อมาบุตรชายคนนี้เป็น นักร้องผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากคณะ สามศักดิ์สุลีวันสุวรรณทัตยากกับครูยอแสง ภักดีเทวาแล้วก้าวเข้าสู่วงการแสดงในยุค ละครเวทีรุ่งเรืองในฐานะนางร้ายแห่งวงการ โดยละครเวทีเรื่องวนิดาสุลาลีวันเล่นร้าย ได้ถึงบทบาทจนคนดูเกลียดทั้งโรงพอเลเสร็จ เดินลงหลังเวทีหม่อมหลวงทรงสะอางที่คำพร เดินเข้าไปหาและเรียกชื่อสุลาลีวันว่าป้า ทองตามบทบาทในเรื่องวนิดาที่เธอเพิ่งเล่น เสร็จคำว่าป้าทองจึงกลายเป็นชื่อเล่นที่ ทุกคนรู้จักและโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง
นับแต่บัดนั้นป้าทองสมรสอีกครั้งกับหม่อม เจ้าอติวงศ์วิวัตรสุริยงค์ป้าทองจึงมี ศักดิ์เป็นหม่อมสุลีวันสุริยงค์ณอยุธยามี บุตธิดาร่วมกัน 5 คนหนึ่งในนั้นคือหม่อม ราชวงทิสาสุริยงค์ซึ่งต่อมาสมรสกับอัมพร ประทีปเสนมีบุตธิดาร่วมกัน 7 คนคนที่ 5 เป็นหญิงชื่อหม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์ ชื่อเล่นปุ้มหม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์ เกิดวันที่ 12 กันยายน 2506 ตรงกับวัน พฤหัสบดีแรม 9 ค่ำเดือน 10 ปีเถาะราศี สิงห์มีศักดิ์เป็นหลานย่าของป้าทองหม่อม สุลีวันสุริยงค์ณอยุธยานักแสดงชื่อดังมี ศักดิ์เป็นหลานลุงของทนงศักดิ์พดีเทวานัก ร้องชื่อดังแห่งคณะสามศักดิ์บุตรชายคนโต
ของพ่อทองหม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์เติบ โตในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ สร้างผู้กำกับหนังชื่อดังโดยทั้ง 2 ท่าน ได้ปั้นนักแสดงหน้าใหม่ประดับวงการมากมาย จึงได้เห็นบรรยากาศการทำงานทั้งเบื้อง หน้าเบื้องหลังมาโดยตลอดแต่ไม่ได้มีความ สนใจจะทำงานในวงการนี้แต่อย่างใดปี 2524 หม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์อายุ 19 ปีหลัง เรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้วญาติผู้ใหญ่ได้ แนะนำให้รู้จักกับคมอัคเดชหรือสมคิดเล่ง อิวอดีตพลตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาล สามเสนอดีตดาวร้ายเด็กปั้นครูชาลี อินทรวิจิตรที่หันมาเอาดีด้านสร้างและ กำกับหนังในนามของโคลีเซียมฟิล์มมีผลงาน
โด่งดังหลายเรื่องเช่นไผ่กำเเพลิงปี 2519 มหาหินปี 2521 เจ้าพายุและเสือภูเขาปี 2522 คมอัคเดชได้เข้าพบกับหม่อมหลวง สุริวรรณสุริยงค์ถึงที่บ้านพอเห็นหน่วย ก้านเข้าทีผู้กำกับและผู้สร้างตาคมคนนี้ จึงให้หม่อมหลวงปุ้มเข้าเรียนยิมนาสติก และฝึกฝนทักษะด้านการต่อสู้เพิ่มเติมโดย มอบหมายให้โป้ปรปักษ์นักแสดงคิวบู๊ชื่อ ดังเป็นครูฝึกคิวบู๊ให้หลังจากฝึกซ้อมฝึก ฝนอย่างหนักเป็นเวลา 1 ปีเต็มปี 2525 หม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์ได้ร่วมแสดงใน หนังฟอร์มยักษ์เรื่องเพชรตัดหยกที่มีนัก แสดงดังจากฮ่องกงฉีเศร้าเฉียนประกบกับ สรพงษ์ชาตรีและนันธิดาแก้วบัวสายปรากฏว่า
หนังทำเงินโด่งดังเพรี่ยงพร่างหม่อมหลวง สุริวรรณสุริยงค์ได้รับรางวัลพระราชทาน พระสุรัสวดีตุ๊กตาเงินดาวรุ่งจากหนัง เรื่องนี้ด้วยนับเป็นนางเอกคนแรกของวงการ ที่เล่นบทบูได้จริงจังเต็มรูปแบบที่สุด เท่าที่วงการหนังไทยเคยมีมาโดยสามารถเล่น บูได้ทุกท่าทุกแนวจนได้รับเล่นหนังแนวนี้ ต่อมาอีกหลายเรื่องซึ่งล้วนแต่เป็นหนังทำ เงินและโด่งดังทั้งสิ้นเช่นลูกสาวนักเลง ไอ้ผางรฟทปี 2525 ปลุกมันขึ้นมาฆ่าปี 2530 เกิดมาลุย 3 อัรเต็มพิกัดปี 2533 เป็นต้นหม่อมหลวงสุรีวรรณสุริยงค์ ได้รับฉายาว่าราชินีหนังบู๊และครูสอน คิวบู๊คนถัดจากเปปรปักก็คือพันนาริไกร
ส่วนพระเอกที่ได้ร่วมงานกันบ่อยที่สุดมี 2 คนคือสรพงษ์ชาตรีกับทูลหิรัญทรัพย์ปี 2525 เล่นหนังเรื่องแรกคือเพชรตัดหยกหม่อมหลวง สิริวรรณสุริยงค์จากที่ไม่คิดว่าอยากจะ เป็นดาราแต่พอได้เข้ามาทำงานด้านนี้อย่าง เต็มตัวก็พบว่าตนเองได้หลงรักงานแสดงเป็น ชีวิตจิตใจเข้าเสียแล้วปี 2530 ผลงาน เริ่มน้อยลงราชินีหนังบู๊คนนี้ได้กลับไป เรียนต่อโดยเข้าศึกษาปริญญาตรีสาขา วิชาการเงินและการธนาคารคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราคำแหงปี 2535 พิฆาตดำ 2 เป็นผลงานหนังเรื่องสุดท้ายหลังจบปริญญา ตรีได้เข้าทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ทางไทย ทีวีสีช่อง 3 นานถึง 2 ปีก่อนย้ายไปทำราย
การสีสันบันเทิงโดยเป็นผู้ก่อตั้งเป็น โปรดิวเซอร์และพิธีกรคนแรกของรายการจาก นั้นได้ลาออกจากช่อง 3 เพื่อไปศึกษาต่อ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยจบการศึกษาระดับ ปริญญาโทด้านสื่อสารมวลชนจากนิวยอร์ก ระหว่างศึกษานี้เองหม่อมหลวงสุริวรรณ สุริยงค์ได้คบหาดูใจกับชนินบุญรายหรือ ชนันธรบุญรายตั้งแต่ปี 2542 และในวันที่ 23 พฤษภาคม 2545 ทั้ง คู่ได้สมรสกันที่แมนฮัตตันสหรัฐอเมริกาปี 2548 หม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์ขึ้นแท่น เป็นผู้บริหารฝ่ายข่าวบันเทิงเป็น โปรดิวเซอร์รายการผู้หญิงถึงผู้หญิงสวย โปรดิวเซอร์และผู้ประกาศข่าวกีฬาคือราย
การทันโลกกีฬาช่วง have a nice day คู่กับชนันธรบุญรายทางไทยทีวีสีช่อง 3 และเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือสก สคหม่อมหลวงสุริวรรณสุริยงค์หรือต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็นหม่อมหลวงสุริกรสุริยงค์ อดีตราชินีนักบู๊ภาพยนตร์ไทยได้เสียชีวิต ลงจากอาการเส้นเลือดในสมองแตกซึ่งเป็น เป็นผลมาจากโรคมะเร็งรังไข่โดยเข้ารับการ รักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชตั้ง แต่วันที่ 11 มกราคม 2564 และผ่าตัดใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 หลังจากผ่าตัดใหญ่ได้ย้ายไปรักษา
ตัวต่อที่โรงพยาบาลมิชชั่นจนเสียชีวิต อย่างสงบเมื่อเวลา 3:45 นของวันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน 2565 สิริอายุ 59 ปีโ Stories ขอน้อม อาลัยรำลึกมาณที่นี้ด้วย ครับ